HomeAboutMusic DataMusic QuotesContact

Thursday 31 July 2014

•◊ Hopium ◊•


วันนี้ก็เช่นเคยยังอยู่งานอิเล็คทรอนิคส์ค่ะ ศิลปินจากออสเตรเลียกลับมาอีกแล้ว คราวนี้เป็น •◊ Hopium ◊• คู่ดูโอ้ออกซิงเกิลที่สองอย่าง Dreamers ออกมาไม่นาน และได้ Phoebe Lou อดีตนักร้องนำจาก Snakadaktal มาฝากสุ้มเสียงหลอนเย็นไว้ด้วย ชอบจริงๆนะแทร็คนี้ ลงตัวไปหมดเลยทั้งพาร์ทดนตรี เมโลดี้ และเสียงหลอนเย็นตามสไตล์ของสาว Phoebe ถ้าตั้งใจฟังดีๆจะพบว่าเนื้อเพลงน้ำเน่ามากนะ สรุปคือต้องไปตามต่อว่าทำไมนางถึงออกจากวง แล้วเดี๋ยวจะคาบข่าวมาบอกกัน 



ป.ล. เริ่มต้นที่งานซิงเกิลสองของ •◊ Hopium ◊• แต่ไหงจบที่ Snakadaktal วงแตกไปได้เนี่ย


post signature


VÉRITÉ




มีสาวสวยเสียงเก๋มานำเสนอกันอีกแล้วละ VÉRITÉ มากับงานที่ชื่อว่า Strange Enough ในพาร์ทของดนตรีแทบไม่มีอะไรต้องน่าห่วง เป็นร็อกที่ผสมอิเล็คทรอนิคส์หน่อยๆตามสมัยนิยม เสียงร้องที่ฟังแล้วติดหลอนนิดๆของสาวเจ้าก็แสนจะเข้ากับดนตรีได้เป็นดิบดี ง่ายๆสั้นๆเลยคือโดน

post signature


Wednesday 30 July 2014

Expectations




Brika นักร้องสาวจากไมอามีกลับมาพร้อมกับซิงเกิลใหม่ค่ะ Expectations เป็นงานแนวอิเล็คทรอนิคส์ผสมผสานการร้องในสไตล์โซล เราว่าน้ำเสียงของเธอก็ละม้ายคล้ายเสียงคนดำอยู่พอสมควรเลยละนะ แต่ที่ทำเราติดใจจริงๆคือเมโลดี้ที่ออกแนวดาร์คนิดๆของเพลงมากกว่าแหละ ชอบตรงท่อน move a little take it slow การเอื้อนที่คำว่า take it slow นี่บาดใจมากเลย เมโลดี้สวยมาก ฟังครั้งแรกก็ติดหูหนึบหนับแกะไม่ออกเลย ส่วนดนตรีก็เจ๋งเอาการ เบสไลน์หนึบๆชวนโยกดีจริงๆ คงต้องบอกว่าแทร็คนี้เกินความคาดหวังไปมากเลยแหละ

post signature

I'm the king of the world!




I’m the king of the world! ….. ยังจำประโยคนี้ที่พ่อลีโอตัวเหม็นออกไปตะโกนโหวกเหวกอยู่ที่หน้าเรือไททานิคได้มั้ย ฟีลลิ่งตรงนั้นสามารถบรรยายได้ดีที่สุดด้วยคำๆนี้จริงๆแหละ เราเชื่ออย่างงั้น และถ้าจะมีเพลงไหนที่สามารถบรรยายโมเมนท์แบบนั้นได้ดีแล้วละก็ ต้องเพลงนี้เลย King of the World จากวง Young Rising Sons ค่ะ ซึ่งเป็นซิงเกิลที่ถัดมาของวงนั่นเอง ฟังแล้วให้ความรู้สึกฮึกเหิมยิ่งใหญ่ดี ดนตรีและจังหวะดูคล้ายๆกับ On Our Way ของ The Royal Concept เลยแหละ เหมือนกันที่ความฮึกเหิมแต่สดใสซู่ซ่า ช่างเหมาะกับผู้ใหญ่หัวใจวัยรุ่นแบบพวกเราแท้ๆ หรือใครจะเถียง คนชอบฟัง edm ไม่มีทางปล่อยให้หัวใจห่อเหี่ยวเป็นคนแก่หรอกเนอะ 

ป.ล. ที่เรียก Leonardo ว่านายลีโอตัวเหม็นใครฟังแล้วเก็ทในทันทีทันใดนี่บอกอายุชัดๆ ถ้าไม่หลักสามก็เฉียดๆแล้วละ

post signature


Tuesday 29 July 2014

Slow (ซบ)




มีศิลปินจากแคนาดามาแนะนำกันอีกแล้วค่ะ หลังจากที่ไม่นานมานี้เพิ่งได้เริ่มแนะนำกันไปบ้างแล้ว คราวนี้ถึงคิวของ Cyril Hahn โพรดิวเซอร์จากแวนคูเวอร์ที่ทำเพลงแนวดีพเฮาส์เป็นหลักค่ะ งานชิ้นนี้ Slow มีเสียง black voice จากนักร้องสาวอย่าง Rochelle Jordan มาช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ให้เพลงด้วย ฟังแล้วอยากออกไปเต้นรำซะจริง จะได้สโลว์แล้วซบกับคนข้างๆ แอร๊ยยย ฟินเนอะ

post signature

Secret Waters ซิงเกิลใหม่จาก Ntjam Rosie



ซิงเกิลล่าสุดของ Ntjam Rosie ที่ออกมาชื่อว่า Secret Waters ยังคงเพราะเหมือนเคย ด้วยจังหวะที่แช่มช้า สไตล์การร้องแบบโซลกับดนตรีแจ๊ส ฟังทีไรก็ไม่เคยเบื่อ ยิ่งบวกกับน้ำเสียง black voice ของเธอด้วยแล้ว ฟินเลย


post signature

Moko และรักของเธอ


Moko มากับซิงเกิลใหม่ที่จะออกในวัน 18 เดือนหน้านี้ค่ะ Your Love เป็นงานเฮ้าส์ที่น่าจับตามากๆในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ ส่วนตัวนอกจากจะชอบท่วงทำนองที่ติดหูแล้ว แน่นอนว่ายังชอบเพราะเป็น black voice ด้วย



post signature


Sunday 27 July 2014

The Return of the Ditto


นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้นำงานยูโรเปี้ยนแจ๊สดีๆมาให้ฟังกัน วันนี้เลยจัดมาให้สองแทร็ค อิมพอร์ทมาจากสวีเดนค่ะ งานของ Jonny Trobro จากอัลบั้ม The Return of the Ditto เป็นฟิวชั่นแจ๊สที่มีไลน์เบสเท่ๆเต็มไปหมดเลย 


สำหรับวันนี้ก็เซิร์ฟๆกันไปแค่สองแทร็คก่อนแล้วกัน ไว้วันหลังจะหางานยูโรเปี้ยนแจ๊สเจ๋งๆหรืองานแจ๊สจากประเทศเล็กๆที่น่าสนใจมาฝากกันอีก จะได้รู้ว่าแจ๊สไม่จำเป็นจะต้องมาจากอเมริกาและนิวออร์ลีนส์อย่างเดียว

post signature


The Ponderosas


หลังจากที่ห่างกายจากการแนะนำงานอาร์แอนด์บีและโซลไปพักใหญ่ มาคราวนี้มีมาฝากให้ฟังกันแบบจุใจทั้งอัลบั้มเลยทีเดียวกับ Until Dawn ของ The Ponderosas วงจากแวนคูเวอร์นี้ คือมันเพราะมันดีไปหมดทุกเพลง จนไม่รู้จะเลือกเพลงไหนมาแนะนำกันเลยทีเดียว ถ้าจะให้เขียนหมดก็เหนื่อยมากเลยบอกตรงๆ ก็เลยยกมาให้ฟังกันทั้งอัลบั้มแบบนี้ไปเลยง่ายที่สุด ให้ดื่มด่ำกับงานอาร์แอนด์บีและโซลกันให้เต็มที่ และถึงแม้จะเป็นงานอาร์แอนด์บี แต่ไลน์เครื่องเป่าเขามาเต็มนะจ๊ะ จัดจ้านมากในหลายๆเพลง ที่สำคัญเสียงนักร้องนำสาวสองคนมีหนึ่งในนั้นเป็น black voice ด้วยนะ ของโปรดเราเลย คงไม่ต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว มันดีมันเจ๋งไปทุกแทร็ค ไปฟังกันเลยละกัน



post signature


Saturday 26 July 2014

The Vantage


มีงานป็อบร็อกเท่ๆมาแนะนำกันอีกแล้ว คราวนี้เป็นงานของวงจากออสตินที่ชื่อว่า The Vantage กับแทร็คโดนๆอย่าง Glow พาร์ทดนตรีเป็นงานป็อบร็อกหนักแน่น เนื้อร้องท่อนคอรัสก็แสนจะติดหู มีเสียงประสานน่ารักๆให้รื่นหู เมโลดี้ก็แสนจะจำง่าย ฟังครั้งแรกก็จำได้แล้ว โดนใจเราไปเต็มๆเลย



เริ่มกันกับแทร็คโดนๆอย่าง Glow พาร์ทดนตรีเป็นงานป็อบร็อกหนักแน่น เนื้อร้องท่อนคอรัสก็แสนจะติดหู มีเสียงประสานน่ารักๆให้รื่นหู เมโลดี้ก็แสนจะจำง่าย ฟังครั้งแรกก็จำได้แล้ว โดนใจเราไปเต็มๆเลย


แทร็คต่อมาชื่อ Bones เป็นงานป็อบร็อกที่หนักแน่นดี เราชอบจังหวะกลองของแทร็คนี้นะ มันกระทุ้งๆดี ท่อนโซโลก็เท่มาก เมโลดี้เขาทำดีจริงๆวงนี้ รู้สึกเหมาะเจาะไปหมดน่ะ ที่ชอบมากคือตอนเพลงเฟดออกจะมีเนื้อท่อนนั้นที่ร้องซ้ำๆเป็นจะยี่สิบรอบ ติดหูดีอะ


Faith เป็นแทร็คที่สามของอัลบั้มค่ะ แค่ขึ้นมาก็โดนแล้ว รู้สึกถึงความป็อบความติดหูอย่างมาก ปกติถ้านึกถึงเพลงป็อบร็อกมันจะดูโหลๆใช่มั้ย แต่วงนี้ไม่เป็นแบบนั้นเลย รู้สึกติดหูได้ทั้งๆที่ไม่โหลน่ะ เก่งดี ทำได้ไงไม่รู้


มาที่แทร็คช้าๆกันบ้างกับ Time of War แทร็คนี้จะออกแนวอคูสติคร็อกเราชอบตรงที่จะได้ยินเสียงเอคโค่สะท้อนในทุกๆท่อนเลย แต่เหมือนไม่มีท่อนคอรัสแหละ ขนาดว่าไม่มีก็ยังติดหูนะคิดดู


สุดท้ายจบที่ The Animal เป็นป็อบร็อกเท่ๆอีกแล้ว ตอนแรกหลอกหูเหมือนจะเป็นเพลงช้าๆเอื่อยๆ ที่เราชอบคือเสียงเสียดสีของสายกีต้าร์ บวกกับลูกนิ้งหน่องเล็กๆในช่วงต้นเพลง หลังจากนั้นตามมาด้วยจังหวะกลองและเบสแน่นปึ้กอัดไปจนจบเพลง

ปกติไม่ค่อยจะได้แนะนำงานป็อบร็อกที่ดูธรรมดาๆกันสักเท่าไหร่ แต่บอกเลยว่างานของ The Vantage ก็ไม่ใช่ป็อบร็อกที่ธรรมดาเหมือนกันนั่นแหละ ติดหู โดดเด่น ไม่โหล ต่างจากงานป็อบร็อกทั่วไปมากเลย

post signature

Shy and the Fight


พักหลังไม่ค่อยได้พูดกันถึงงานโฟล์คเท่าไหร่เลยใช่มั้ย วันนี้มีงานโฟล์คมาฝากกันซะทีแล้วค่ะ กับ Shy and the Fight วงโฟล์คน่ารักๆจากเกาะอังกฤษ เพิ่งออกดิจิตอลอัลบั้มเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมานี้เองละ



เริ่มกันที่แทร็คแรกเลยนะ First the Bird Fell อินโทรยาวนานมาก ปาไปหนึ่งนาทีกว่าๆ ลุ้นใจหายใจคว่ำว่าจะชอบหรือเปล่า เลย 45 วิฯแล้วนะ ทำไมเนื้อไม่มาซะทีวะ แต่พอเนื้อมาแค่ประโยคแรกเท่านั้นแหละ หลงรักเลย และรักไปทั้งเพลงด้วย ผสมผสานได้ลงตัวมากระหว่างโฟล์คและอินดี้ป็อบ น่ารักเป็นบ้าเลย



แทร็คที่สองไม่ต้องให้รอนาน อินโทรบทจะสั้นก็สั้นจนใจหาย และเป็นแทร็คที่ชื่อยาวม๊าก Pick a subject, let’s have an arguement ที่ยังคงมีลีลาโฟล์คและอินดี้ป็อบผสมกันแบบลงตัว กรุ๊งกริ๊งๆตลอดทั้งเพลง



แทร็คสามอย่าง Stop Motion ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน กรุ๊งกริ๊งฟรุ้งฟริ้งน่ารักที่สุดอะ อีกนิดเดียวก็จะเป็นสวีดิชป็อบแล้วนะเนี่ย



มาถึงแทร็คสี่กันบ้าง อินโทรโคตรเท่เลยขอบอก Here the Sea Speaks in Whispers แทร็คนี้ไม่มีความฟรุ้งฟริ้งกรุ๊งกริ๊งให้เห็นอีกแล้ว เหลือแต่ความเป็นอินดี้ป็อบเท่ๆ ที่มีลูกโฟล์คผสมเข้ามานิดๆพอให้ได้กลิ่นอาย พร้อมเสียงคอรัสหญิงเติมเต็มให้เพลงยิ่งสมบูรณ์ขึ้น



เอาวะ ไหนๆก็พูดมาถึงตรงนี้ จัดแทร็คแถมสั้นๆมาให้ฟังกันครบหมดอัลบั้มเลยจะเป็นไรไป กับ It’s the end of the world … shhh don’t tell the kids ชื่อฟังดูโลกสวยแบบโหดร้ายมากอะ อินโทรฟังแล้วเหมือนโดนดูดเข้าไปในสวนสนุกเด็กยังไงยังงั้นเลย เห็นภาพตัวเองนั่งม้าหมุนสวยๆพร้อมกับมีสายไหมสีชมพูก้อนเบ้งถือในมือ แทร็คนี้ไม่มีเนื้อร้องนะ มีเสียงฮัมเบาๆเท่านั้น 

ไม่ได้ฟังงานโฟล์คดีๆแบบนี้มานานแล้ว น่ารักมากจริงๆ อยากให้ได้ลองฟังกันดู น่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกรุ๊งกริ๊งครบสูตรเลย ถ้าได้ฟังแล้วอารมณ์ดีไปทั้งวันแน่ๆ

post signature


Friday 25 July 2014

Bantum


วันนี้มาพบกับงานอิเล็คทรอนิคส์เก๋ๆจากไอร์แลนด์กันดีกว่า กับ Bantum และซิงเกิลที่ออกล่าสุดเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาในชื่อว่า Oh My Days แทร็คนี้ฟรุ้งฟริ้งน่ารักดีมากเลย จังหวะไม่ได้เร่งเร้าหรือมีลูกเบสหนักแน่นอะไรมาก แต่กลับมีเสียงกรุ๊งกริ๊งล่องลอยเต็มไปหมด ฟังแล้วอยากชวน My Little Pony สักตัวออกมาเต้นรำด้วยกันจังเลย



post signature


Wechselwandler EP


มาลองฟังงานดีพเฮ้าส์จากเยอรมันกันบ้างดีกว่า กับ EP ที่มีชื่อว่า Wechselwandler จาก Pettenhäuser & Ohlendorf สำหรับ EP นี้จะมีด้วยกันอยู่แค่ 3 แทร็คเท่านั้น แต่ที่ลองฟังแล้วปลื้มปริ่มที่สุดคือ Wechselwandler ที่มีชื่อเดียวกับ EP นั่นเอง



จะว่าไปก็ใช่ว่าจะปลื้มอยู่แค่แทร็คเดียวนะ B U ที่เป็นแทร็คที่ 2 ฟังแล้วก็เคลิ้มดีไม่หยอกเลย รู้สึกถึงน้ำนิ่งสงบ แต่มีพรายน้ำเล็กๆผุดอยู่ตลอด เคลิ้มมากจริงๆ เคลิ้มแบบเยือกเย็น 



ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ในเมื่อมันมีกันอยู่แค่ 3 แทร็คก็จัดมาให้ฟังกันทั้งหมดเลยละกัน ไม่รู้จะเหลือไว้ทำไม กับแทร็คสุดท้ายคือ Kuckuck ชื่อแปลกๆ อ่านออกเสียงยาก ไม่รู้จะอ่านให้เป็นเยอรมันหรืออังกฤษดี แต่เพลงเขาเก๋ได้ใจเจ๊ไปเลย



ฟังสบายตลอดทั้ง EP ด้วยความยาวทั้งหมด 20 นาทีกว่าๆ ใช้เป็นอัลบั้มกล่อมนอนได้เลยนะเนี่ย

post signature


Thursday 24 July 2014

Relief EP


มาถึงคิวงานสายอัลเทอเนทีฟของสาวจาก Redding อย่าง Mariah Wester ที่เพิ่งออกมาสดๆใหม่ๆกับ EP ชื่อ Relief กันบ้าง ความจริงตัวงานหลักๆก็น่าจะเป็นป็อบร็อกนี่แหละ แต่มีเอ็ฟเฟ็คมีอะไรๆที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้องค์ประกอบของเพลงมันละเอียดขึ้น เลยไม่ซ้ำซากจำเจเหมือนกับเพลงป็อบร็อกตลาดๆสูตรสำเร็จที่หาฟังได้อย่างดาดดื่นทุกวันนี้



แทร็คที่เราชอบมากก็คือ Wildlower เปิดเพลงด้วยเสียงเปียโนที่ฟังดูคุ้นเคย บวกกับเสียงห้าวๆและกลิ่นอายเก่านิดๆ ทำให้เพลงดูเท่ขึ้นไม่หยอกเลยทีเดียว ในขณะที่ดูขลังไปด้วยในตัว พูดได้เต็มปากว่าตกหลุมรักตั้งแต่ท่อนแรกที่ได้ฟัง



อีกแทร็คที่น่าสนใจคือ 5th Avenue ภาพชัดเจนว่าเป็นงานป็อบร็อก แต่รายละเอียดและองค์ประกอบหลายๆอย่างของเพลงมันทำให้ไม่มีอะไรน่าเบื่อเลยสักนิด มีแต่ความสดใหม่



มาลองฟังแทร็คช้าของ EP กันบ้าง Relief ที่มีแต่เสียงร้องหม่นเศร้าคู่กับไลน์กีต้าร์อคูสติคที่หม่นไม่แพ้กัน เรียกว่าสามารถตัดอารมณ์จาก 2 แทร็คด้านบนได้แบบชะงัดเลยทีเดียว



แทร็คปิดก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ Hollywood เปิดตัวขึ้นมาด้วยลีลาเรียบๆแต่น้ำเสียงคุ้นหู หลังจากนั้นก็เป็นร็อกที่เกรี้ยวกราดพุ่งพล่านขึ้นมาซะอย่างงั้น หักอารมณ์หม่นเศร้าจากแทร็คก่อนหน้าซะอยู่หมัด

หลังจากฟังครบทั้งหมดมีความรู้สึกแปลกๆอยู่อย่างนึงคือ บางทีก็รู้สึกว่าแต่ละแทร็คไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกันมาสักเท่าไหร่เลย แต่บางทีก็รู้สึกว่าช่างแตกต่างเหลือเกิน ฟังดูงงๆใช่มั้ยละ แต่มันก็เป็นความรู้สึกในแบบที่หาไม่ค่อยได้จากงานของใครเลยนะ 

post signature


Shoos Off


ช่วงนี้เป็นคิวสำหรับการแนะนำศิลปินที่มีผลงานน่าสนใจออกมาตั้งแต่กลางเดือนให้ได้อัพเดทกันค่ะ กับวง Shoos Off และ EP ตัวล่าสุดที่ชื่อว่า Most Times วงนี้มีสมาชิกด้วยกัน 5 คนทั้งหญิงและชาย ดนตรีที่ทำออกมาก็น่าสนใจ เป็นแนวฟังก์ผสมกับโซลและฮิปฮอป แต่ก็ยังมีลูกเล่นของป็อบอยู่ในหลายๆแทร็ค ส่วนแทร็คจังหวะมีเดียมก็มีอาร์แอนด์บีผสมอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน 



สำหรับแทร็คแรกที่จะพูดถึงคือ Cake (Luv N’ Again) เป็นแทร็คที่โดดเด่นด้วยจังหวะฟังก์และผสมกับสไตล์การร้องแบบโซล อยากบอกว่ามันเท่มากๆ เหมาะสมที่จะเป็นแทร็คเปิดของ EP เป็นอย่างยิ่ง



แทร็คต่อมามีชื่อว่า As Ingle ยังคงความเท่ในแบบฉบับดนตรีฟังก์อยู่ บวกกับกลิ่นอายแบบฮิปฮอปอย่างคนผิวดำที่เจือปนมา ทำให้เพลงนี้เท่อีกแล้ว ฟังแล้วรู้สึกเหมือนเดินเล่นอยู่ในชิคาโกยังยังยังงั้นเลย



มาถึงแทร็คที่ 3 ของ EP ในชื่อว่า East Coast Women กันบ้าง ส่วนตัวรู้สึกว่าเพลงนี้ได้รับอิทธิพลของงานอินดี้ป็อบที่ยังคงฮิตไม่เสื่อมคลายทุกยุคทุกสมัยมาเต็มๆเลยทีเดียว ความเป็นฟังก์และฮิปฮอปถูกลดทอนลงไปจนเหี้ยน เหลือแต่ความน่ารักล้วนๆ



แทร็คที่ 4 ก็เด็ดไม่แพ้กัน My Concern เป็นดนตรีฟังก์ผสมฮิปฮอปตามแนวทางที่วงถนัดเลยแหละ แต่ด้วยวิธีการร้องที่อิงไปในแนวทางของอินดี้ป็อบ มันก็เลยเกิดเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจทีเดียว



และแล้วก็มาถึงแทร็คสุดท้ายที่มีชื่อเดียวกับ EP นี้ก็คือ Most Times เป็นเพลงช้าที่ฟังแล้วให้ความรู้สึก laid back มาก เหมือนอยู่ในชนบทของอังกฤษเลย ดูจะเป็นเพลงที่มีความป็อบที่สุดแล้วจากทั้งหมดที่มี 5 เพลง ถึงกระนั้นก็มีเสียงเครื่องเป่าและไลน์เปียโนที่น่าสนใจมากนะ

จากที่ได้ฟังครบทั้งหมด 5 แทร็คแล้ว บอกได้เลยว่าชอบมากเอาการเลยแหละ ส่วนผสมระหว่างดนตรีฟังก์ ฮิปฮอป โซล และป็อบ มันช่างลงตัวเหมาะเจาะไปหมดเลยจริงๆ แทบไม่น่าเชื่อว่า Shoos Off จะมาจากลอสแอนเจลิสนะ เพราะงานหลายๆแทร็คมีกลิ่นอายดนตรีแบบคนดำจากตอนเหนือ บางเพลงกลับมีกลิ่นอายแบบดนตรีจากฝั่งอังกฤษปนอยู่ก็ไม่น้อยเลย สรุปแล้วก็ชอบแหละไม่ว่าจะเป็นงานจากฝั่งไหนก็ตาม

post signature


นักบุญเป็บซี่


คราวนี้มีงานอิเล็คทรอนิคส์น่ารักๆที่ให้กลิ่นอายยุค 80 หน่อยๆมาให้ฟังกันค่ะ จาก Saint Pepsi ที่เราชอบเรียกแบบกวนๆเองว่านักบุญเป็บซี่นี่แหละ ฮาดี แทร็คมีชื่อว่า Fiona Coyne ทำเอางงไปเหมือนกันตอนแรกว่าอันไหนชื่อเพลงอันไหนชื่อศิลปินกันแน่ จังหวะฟังกี้ผสมดิสโก้ชวนให้เราขยับโยกอย่างสดใสทีเดียวละ โยกไปทำหน้าแป้นแร้นไป อ๊ายย มีความสุข



post signature


Sunday 20 July 2014

Real Love


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่างานชิ้นนี้จะเกิดจากน้ำมือของโพรดิวเซอร์จากนอร์เวย์ที่มีวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น บวกกับเสียงร้องของ Dankya Nadeau เข้าไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ซิงเกิล Real Love ของ Rootkit นี้ส่อแววว่าจะฮิตไปทั่วทุกหย่อมหญ้าของวงการเพลงเต้นรำเลยแหละ แน่นอนว่าเราก็รีบเอามารายงานคุณก่อนใครๆ



post signature

อัลบั้มใหม่ของ Bondax กำลังจะมา


ตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่เราได้รู้ว่าอัลบั้มใหม่ของ Bondax กำลังจะออกในวันที่ 7 กันยายนที่จะถึงนี้แล้ว หลังจากที่ปีก่อนทำให้เรากรี๊ดกร๊าดไปกับแทร็ค Giving It All อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง มาปีนี้อัลบั้มก็ใกล้คลอดเต็มที พร้อมกลับปล่อยซิงเกิลที่ชื่อว่า All I See มาเรียกน้ำย่อยกันก่อน



ขอบอกเลยว่าติดหูมากไม่แพ้เพลงก่อนๆที่เราเคยบ้าคลั่ง ไม่รู้ว่า Bondax มีเคล็ดลับหรือมนต์เสน่ห์อะไรถึงทำให้งานแต่ละชิ้นที่ออกมามันช่างน่าติดหูติดใจเราไปหมดอย่างนี้ รับประกันเลยว่าฟังแล้วจะต้องคิดเหมือนเรา

post signature


Saturday 19 July 2014

Ain't Nobody


งานใหม่จากโพรดิวเซอร์คนเก่งชาวเยอรมันมาแล้วจ้า คราวนี้ Felix Jaehn ออกงานใหม่ที่ featuring กับสาวเสียงสวยอย่าง Jasmine Thompson ซะด้วย แทร็คเก๋ๆนี้มีชื่อว่า Ain’t Nobody เป็นงาน chill house ที่เก๋ไก๋น่าดูชมทีเดียว เราชอบเสียงไซโลโฟนที่มีมาอยู่เรื่อยๆในเพลงนี้ มันทำให้เพลงดูดุ๊งดิ๊งสดใสดีน่ะ สรุปง่ายๆเลยว่าชอบ

post signature

Do you?


วงร็อกจากเมืองออสตินวงนี้เอาผลงานกลับมาฝากพวกเรากันอีกครั้งแล้วค่ะ Spoon เพิ่งออกซิงเกิลใหม่ที่ชื่อว่า Do You เปิดเพลงมาด้วยเสียงคอรัส do-do-dos ที่น่ารักและติดหู เมโลดี้น่ารักมากๆเลย เป็นอินดี้ร็อกที่ไม่ได้ร็อกหนักหน่วงเกินไป คนที่ไม่ใช่สายร็อกหูหนักก็ยังฟังได้สบาย เพราะมีดีเทลที่น่ารักจุ๊กจิ๊กแอบซ่อนอยู่ในเพลงเนืองๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงคอรัสและไลน์ดนตรีเล็กๆน้อยๆที่สอดแทรกเข้ามาลดความตึงเครียดของความเป็นร็อก เรียกว่าเป็นงานร็อกที่ฟังได้เรื่อยๆสบายๆเลยละ 



ซิงเกิลนี้จะมาในอัลบั้ม The Want My Soul ซึ่งจะวางแผงในวันที่ 5 สิงหาคมนี้แล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะว่าจะชอบพวกเขาเหมือนที่เราชอบหรือเปล่า, do you?

post signature

Friday 18 July 2014

Down and Out


วงจากออสเตรเลียยังคงมีผลงานที่โดดเด่นมาแรงเข้าตาเราเหมือนเคย วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำให้รู้จักกันอีกวงละกันนะ ชื่อวงว่า The Griswolds เป็นวง 5 ชิ้นจากซิดนีย์ ที่ผสมผสานดนตรีอิเล็คทรอนิคส์เข้ากับงานแนวร็อกของตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นร็อกจ๋าที่หนักหน่วงอะไรมากมายเหมือนกัน ไลน์กีต้าร์จะคล้ายๆกับเพลงร็อกยุค 80 ซะด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมด้วยเสียงซินธ์ต่างๆและเสียงประสานเจื้อยแจ้วเป็นการเพิ่มลูกเล่นให้งานน่าสนใจขึ้นอีกด้วย 



ส่วนซิงเกิลที่ปล่อยออกมาก่อนหน้าอย่าง Beware the Dog ก็มีจังหวะที่น่าสนใจ ตรงที่แทร็คนี้จะมีความเป็นป็อกร็อกมากกว่าที่จะเป็นงานอิเล็คทรอนิคส์ ให้ความรู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้มันดูยุ่งยากเสมอไปงานมันก็ออกมาดีได้นะ 




post signature

Belize


Belize เป็นประเทศนึงที่มีทะเลที่สวยมากๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้กัน และทะเลสวยๆก็ต้องคู่กับปาร์ตี้ริมหาดเจ๋งๆใช่มั้ยละ แน่นอนว่าปาร์ตี้จะเจ๋งได้ก็ต้องมีเพลงดีๆไว้เปิดในงาน Wayward พร้อมแล้วที่จะนำเพลงที่เหมาะสมกับปาร์ตี้ริมหาดใน Belize ด้วยแทร็คที่มีชื่อเดียวกับประเทศมาให้เราได้ฟังกัน และแทร็คนี้แหละจะทำให้ปาร์ตี้ริมหาดเป็นที่น่าจดจำไปอีกนานแสนนาน

post signature

Thursday 17 July 2014

Kawehi


คราวนี้มีนักร้องสาวจากเกาะฮาวายมาแนะนำให้ได้รู้จักกันไว้ เธอคือ Kawehi และงานที่เลือกมาฝากกันคือซิงเกิลแรกของเธอในชื่อว่า Anthem ค่ะ สำหรับงานนี้จะอยู่ใน EP Robot Heart ของเธอที่ก็เป็น EP ตัวแรกอีกเช่นกัน



งานนี้ต้องพูดเลยว่าเธอทำเองทุกเม็ดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นบีทบ็อกซ์ที่ใช้เป็นเสียงเพอร์คัสชั่นต่างๆ กีต้าร์ คีย์บอร์ด และแน่นอนว่าเสียงร้องก็เป็นของใครไปไม่ได้นอกจากตัวเธอเอง หลังจากได้ฟังครั้งแรกเราก็หลงรักเธอเข้าอย่างจัง อยากจะติดตามผลงานชิ้นต่อไปของเธอว่าจะเด็ดสักแค่ไหน และสัญญาเลยว่าจะรีบนำมารายงานให้ได้รู้กันเหมือนอย่างเคย ยังไงก็ลองไปหาเพลงที่เธอเคย cover ไว้ฟังดูได้ มีเด็ดๆหลายเพลงเลยแหละ แถมเทคนิคการอัดเสียงบีทบ็อกซ์ด้วยแอพอะไรสักอย่างก็เริ่ดมากเชียวละ เพลงที่เราชอบคือ Payphone ลองเข้าไปฟังได้ในช่องของเธอใน YouTube แล้วกันนะ 

post signature

Go Deep


อยากออกกำลังยามเช้าบนเตียงมั้ยละ เพลงนี้แหละใช่เลย มันสามารถใช้เป็นเพลงประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะทุกประเภทได้เป็นอย่างดี สำหรับ Go Deep งานดิสโก้เฮ้าส์จาก Jax Jones ที่จะมากระตุ้นต่อมการอยากออกกำลังกายในร่มช่วงเช้าให้กับพวกเรา เรื่องเสียงร้องก็ไม่ต้องห่วง เซ็กซี่ดีไม่หยอกอยู่แล้ว เข้ากันกับเพลงเป็นอย่างดี



เอาละ เรามา Go Deep ให้มัน deep กันสุดๆไปเล้ย

post signature

Wednesday 16 July 2014

Atlas Bound


มีงานจากศิลปินออสเตรเลียมาแนะนำกันอีกแล้ว คราวนี้เป็นดูโอ้ที่มีชื่อว่า Atlast Bound กับผลงานในแนว downtempo หรือจะบอกว่าเป็น chillwave ก็ได้เช่นกัน กับแทร็คที่ชื่อ Lock ฟังแล้วเย็นฉ่ำชื่นชิลสมชื่อเลยแหละ อีกส่วนนึงที่ทำให้เพลงนี้มีความมหัศจรรย์คงจะเป็นเสียงร้องแหบห้าวทุ้มต่ำ ที่ฟังแล้วแยกไม่ค่อยออกว่าคนร้องเป็นหญิงหรือชายกันแน่ ความเป็นปริศนาแบบนี้แหละที่ทำให้ยิ่งน่าติดตาม



post signature

Her Way


ถ้าคุณกำลังมองหางานเท่ๆแต่เต็มไปด้วยความเซ็กซี่ยั่วยวนแล้วละก็ นี่คือแทร็คที่คุณจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด Her Way เป็นการร่วมงานกันระหว่าง aywy และ Fortune Bootleg ที่นำเอาความเป็นอาร์แอนด์บีและ trap มาใส่ไว้กับดนตรีอิเล็คทรอนิคส์อย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือความเซ็กซี่ยั่วยวนทางอารมณ์อย่างร้ายกาจ



post signature


Tuesday 15 July 2014

Days Without You


คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันให้มากความ สำหรับแทร็คนี้ Days Without You จากการร่วมงานกันของ Snakehips และ Sinead Harnett เป็นงานอิเล็คทรอนิคส์ที่ผสมเข้ากับอาร์แอนด์บี และก็ยังสอดแทรกความเป็นเฮ้าส์ไว้ด้วย บอกแล้วไงว่าจะไม่พูดมาก ไปฟังกันเลย รับรองว่าชอบแน่ เชื่อสิ



post signature


O-ya-su-mi-na-sai


Oyasuminasai ในภาษาญี่ปุ่นแปลเป็นไทยได้ว่าราตรีสวัสดิ์ บางครั้งคนญี่ปุ่นก็จะนิยมพูดกันสั้นๆแค่ว่า Oyasumi แต่วันนี้คำๆนี้มีความหมายที่น่ารักไปกว่าเดิมมากเพราะ NEET เอามันมาเป็นชื่อผลงานล่าสุดของเขา



เสียงร้องโนะเนะแบบคาวาอี้สไตล์เจแปนมันช่างเข้ากันได้ดีกับดนตรีอิเล็คทรอนิคส์นะ และมีความเป็น trap อยู่ในบางจุดด้วย ถึงแม้เราจะฟังไม่ค่อยออกก็ตามเนื่องจากเก็บความรู้อันน้อยนิดเข้ากรุไปหมดแล้ว ฟังรู้เรื่องแค่ 2 คำคือคำตามชื่อเพลงและคำว่าซาโยนาระ เจริญดีแท้ ฮ่าๆ เรายังไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงแบ๊วๆนั้นคือใคร แต่มันเข้ากับดนตรีมากจริงๆ เหมือนเป็นหุ่นยนต์แมวเหมียวน่ารักๆยังไงยังงั้นเลยละ และอีกเช่นเคยที่คุณสามารถเข้าไปดาวน์โหลดเพลงจาก FB page ได้ฟรี

post signature

งานใหม่จาก Cro มาแล้ว


ห่างหายกันไปได้สักพักใหญ่ๆ เมื่อเดือนที่แล้ว Cro หรือตามฉายาที่เขาตั้งให้ตัวเองว่าเป็นเจ้าพ่องานเพลงแนว raop ก็เข็นผลงานใหม่ออกมาให้ได้ฟังกันแล้วคือ Traum ตัวเพลงยังเป็นแนวเดิมก็คือ raop แบบที่เขาเชี่ยวชาญ แต่ครั้งนี้เขาเพิ่มเติมเสียงเครื่องเป่าลงไปด้วย ทำให้รู้สึกย้อนยุคมากขึ้น สดใสมากขึ้นด้วย 



mv เองรึก็น่ารัก มี story ที่น่าสนใจ เป็นคล้ายๆเดทโชว์ทางทีวี มีสาวมาเลือกระหว่างหนุ่มสองคน และหนุ่มๆจะต้องพาสาวไปเดทสร้างความประทับใจ เรื่องสนุกอยู่ที่ทั้งสองหนุ่มนี้ผลัดกันป่วนคู่แข่งด้วยวิธีการบ้าๆบอๆ โดยตลอดการออกเดทจะมี Cro ไปป้วนเปี้ยนให้เสียงเพลงประกอบตลอดรายการ และเช่นเคยว่าเขายังคงมากับหน้ากากยางรูปหมีแพนด้าอันเดิม

หลังจากทีฟังซิงเกิลนี้แล้วก็ให้นึกว่าซิงเกิลต่อไปจะน่าติดตามขนาดไหนกันนะเนี่ย

post signature


Monday 14 July 2014

Against The Night


สำหรับงานของ ChildActor ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นงานสไตล์อิเล็คทรอนิคส์แบบที่พวกเราคงจะคุ้นเคยกันดี แต่สิ่งที่เด่นเราคิดว่าเป็นการร้องที่ดูน่ารักและมีจริตจก้าน ที่เริ่ดกว่านั้นคือตัว mv เนี่ยละ รังสีเบี้ยนแผ่ซ่านกระจายไปทั่วทั้ง mv เลยทีเดียว 



ใครที่ฟังแล้วชอบก็ติดตามได้ใน EP ที่ชื่อ Never Die นะ แถมยังมีให้ดาวน์โหลดฟรีได้ทางเวบอีกนะ ง่ายๆแค่เพียงกรอกอีเมลของคุณลงไป ก็จะได้รับลิงก์มาให้โหลดกันถึงที่เลยแหละ ยังไงลองแวะเข้าไปดูกันได้นะ

post signature


And You?


ตอนนี้ที่ฝั่งอเมริกาเข้าหน้าร้อนกันแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นโพรดิวเซอร์หลายๆคนจึงเข็นเอาเพลงที่ทำเอาใจขาปาร์ตี้ในหน้าร้อนออกมากันเยอะแยะเต็มตลาด และ Falcon Punch กับ Roller Radio ก็เป็นหนึ่งในนั้น กับงานใหม่ที่ชื่อ And You



ด้วยจังหวะดิสโก้แบบดั้งเดิมที่พวกเราคุ้นหูกันดี เขานำเอามาผสมกับความเป็นเฮ้าส์ที่มีลีลาเซ็กซี่และเย้ายวนแฝงอยู่ ทำให้กลายเป็นดิสโก้แนวใหม่ขึ้นมา ฟังแล้วรู้สึกว่าช่างเข้ากับบรรยากาศของการปาร์ตี้ริมหาดที่แสนจะเซ็กซี่ได้ดีมากๆเลยทีเดียว

post signature


Sunday 13 July 2014

พลังแห่งการ re-arrange


ต้องลัดคิวมาเขียนก่อนโพสต์อื่นๆเพราะว่าเป็นอะไรที่ไม่สามารถสลัดออกจากสมองได้เลย หมกมุ่นมาเป็นชั่วโมงแล้วเนี่ย ฟังแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ จนไม่เป็นอันทำอะไรอื่น ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ฟังเพลงนี้เป็นครั้งแรก



ฝากไว้ เวอร์ชั่นใหม่นี้เป็นผลงานการอะเรนจ์ใหม่ของวิชญ วัฒนศัพท์ ที่มีผลงานทำเพลงมามากมายทั้งในนามเดี่ยวอย่าง Photo Sticker Machine หรือการร่วมงานกับวงดังๆอย่างทีโบนและละอองฟอง ส่วนเสียงสวยๆและหลอนแบบเยือกเย็นก็ได้สาวน่ารักอย่าง Violet Voltier ที่เคยเข้ารอบ The Voice Thailand SS2 มาฝากเนื้อเสียงที่เพราะแต่เก๋ไว้ให้ ดนตรีที่เรียบเรียงขึ้นมาใหม่นั้นเรียกว่าไม่เหลือเค้าเดิมเลย มีความเป็น deep house แบบชัดเจน มีเบสและการเว้นจังหวะที่น่าสนใจ บวกกับเสียงร้องและฟีลลิ่งของเสียง ทำให้เพลงดูหลอนเยือกเย็นแต่ก็อบอุ่นในตัวอย่างน่าประหลาด ฟังแล้วมโนเอาเองว่าขั้นตอนการทำน่าจะเกิดจากการตีความเนื้อหาของหนังก่อน จากนั้นก็เลือกเพลงที่มีเนื้อหาเข้ากันได้กับเนื้อเรื่องมาอะเรนจ์ รวมทั้งดีไซน์การร้องให้เข้ากับ mood&tone ของหนังด้วย มันเลยออกมาแบบเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยสุดๆแบบนี้



ส่วนเวอร์ชั่นเดิมเป็นของพี่เบิร์ด ทั้งเนื้อหาและดนตรีรวมๆออกมาในแนวโรแมนติคอบอุ่น เป็นป็อบแบบตลาดๆทั่วไปที่หาฟังกันได้ในยุค 90 แบบนั้น มีเสียงแซ็กโซโฟนมาช่วยชูโรงในช่วงอินโทรและโซโล่ นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่ เรื่องของวิธีการร้องก็ตามมาตรฐานพี่เบิร์ดแกแหละ นุ่มๆเนิบๆเสียงดีไปตามเรื่อง ไม่ได้มีโทนหรือฟีลลิ่งอะไรที่พิเศษกว่าปกติ ถ้าจำไม่ผิดนะ เพลงนี้เป็นเพลงหน้าบีในอัลบั้มพริกขี้หนู ไม่ได้ฮิตแบบโดดเด่นเท่าไหร่เพราะในอัลบั้มนี้มีเพลงอื่นที่ดังกว่ามาก แต่เรียกว่าเป็นเพลงที่ต้องรู้จักแน่ถ้าใครที่ซื้ออัลบั้มนี้มาแล้วฟังจริงๆจัง

สำหรับโพสต์นี้อย่าเรียกว่าเป็นการแนะนำเพลงเลย คงจะไม่ใช่ เพราะด้วยความที่มันเป็น ost. ของหนังดังจากค่ายใหญ่ มันก็คงดังไม่แพ้ตัวหนังและดารานำอยู่แล้ว แต่เหตุผลที่นำมาเขียนถึงก็คืออยากจะชี้ให้เห็นถึงพลังของการ re-arrange เพลงนี่แหละว่ามันทรงพลังขนาดไหน เรียกว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย ทรงพลังขนาดที่ว่าทำให้คนที่นานๆจะมีหนังไทยที่อยากจะดูสักเรื่องแบบเราได้ฟังเพลงประกอบแล้วคิดอยากไปดูขึ้นมาซะดื้อๆเลย แถมฟังวนไปวนมาแบบหยุดไม่ได้แล้วด้วย

post signature

The Antlers


ยังคงอยู่กับงานป็อบอีกเช่นเคยค่ะ คราวนี้เป็นงานป็อบร็อคจากวง The Antlers กับอัลบั้มที่ชื่อ Familiairs และต้องขอบอกเลยว่างานชุดนี้งดงามมากจริงๆ มีทั้งลีลาที่สง่างามแช่มช้า ลีลาหวานหยดย้อย และกระแทกกระทั้นเร้าใจ มากันครบเลยทีเดียว



เริ่มแรกกับซิงเกิล Palace ที่มีเครื่องเป่าคลอไปทั้งเพลง ให้ความรู้สึกสง่างามปนเหงาๆยังไงบอกไม่ถูก ฟังแล้วได้ฟีลลิ่งหดหู่ติดมาเล็กๆค่ะ ด้วยความยาว 5 นาทีกว่าๆทำให้เสพย์อารมณ์กันอิ่มแปล้ไปเลย



ส่วน Intruder นั้นกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปค่ะ ซิงเกิลนี้มีกลิ่นอายย้อนยุคนิดๆ มีความหนักแน่นในจังหวะมากกว่าเดิมขึ้นมาอีกหน่อย บวกกับความเป็น ambient ที่มีให้เห็นได้ชัด แต่ก็ยังมีเสียงของเครื่องเป่าหลุดลอดมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ แถมด้วยเสียงคอรัสหญิงน่ารักๆปนมาอีกด้วย

งานทั้งอัลบั้มให้โทนหม่นแต่สง่างามแทบทุกเพลงเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะซาวด์แบบ ambient หรือซาวด์ย้อนยุคที่มีอิทธิพลในงานมากเหลือเกิน ใครที่ชอบฟังเพลงสไตล์หม่นเศร้าบอกได้เลยว่าห้ามพลาด


post signature


Saturday 12 July 2014

TV Girl


เมื่ออาทิตย์ก่อนได้ฟังงานป็อบย้อนยุคจากศิลปินกลุ่มนึงแล้วถึงกับติดตราตรึงในหัวไปหลายวัน จนวันนี้อดรนทนไม่ไหวเลยต้องมาเขียนแนะนำให้รู้จักกันเอาไว้ งานทั้งหมดนี้มาจากอัลบั้ม French Exit ที่เป็นงานเดบิวท์ของ TV Girl ที่ทำงานป็อบแบบย้อนยุคออกมาได้อย่างน่ารักน่าชัง แต่ปกไวนิลที่เห็นไม่ชวนให้รู้สึกว่าเป็นงานป็อบเลยแฮะ ดูเหมือนร็อกในยุคต้น 90 ซะมากกว่า


แทร็คโปรดของเราคือ Birds Don’t Sing ฟังครั้งแรกก็ติดหูเลย มีทั้งเครื่องสายสวยๆที่ฟังแล้วรู้สึกถึงความวินเทจขึ้นมาทันทีและเมโลดี้ก็คุ้นหูมากๆ แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกซะทีว่าเป็น sampler จากงานของใคร เป็นแทร็คที่ฟังแล้วต้องฟังซ้ำอีกเรื่อยๆไม่มีเบื่อ



เพลงถัดไปที่เรารู้สึกว่าโดดเด่นก็คือ Pantyhose แค่ฟังชื่อก็เซ็กซี่แล้วเนอะ เปิดเพลงด้วยเสียงคอรัสที่น่ารัก ตามมาด้วยท่อนร้องที่มีเสียงประสานในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของวงไปแล้ว ซาวด์กรุ๊งกริ๊งพอสมควรแต่ก็ยังมีเสียงซินธ์ประกอบให้รู้สึกเท่ไปในตัวได้ด้วย แต่เสียดายที่เพลงสั้นจังเลย ไม่ถึง 3 นาทีก็จบซะแล้ว



อีกแทร็คที่น่าสนใจเห็นจะเป็น Louise เริ่มต้นด้วยเสียงคล้ายๆการสนทนาทางโทรศัพท์ของหญิงสาวคนนึง น่าจะชื่อว่า Louise ด้วยสินะ การเรียบเรียงเสียงประสานยังเป็นที่ถูกอกถูกใจเราเหมือนเดิม อีกทั้งคอรัส เครื่องสาย และความกรุ๋งกริ๋งจุ๊งจิ๊งที่มันน่ารักเอามากๆเลยละ

ถ้าจะให้พูดแบบเข้าใจง่ายๆ สำหรับเรา French Exit เป็นอัลบั้มที่เต็มไปด้วยงานป็อบผสมอิเล็คโทรนิคบวกกับกลิ่นอายย้อนยุคที่ผสมเข้ากันอย่างลงตัวสุดอัลบั้มนึงเท่าที่เราเคยฟังมาทีเดียว และก็นานจนเกือบจำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าได้ฟังงานป็อบดีๆแบบนี้ล่าสุดเมื่อไหร่


post signature



Wednesday 9 July 2014

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น


ถ้าเราจะพูดถึงศิลปินนักดนตรีชื่อดังระดับโลกที่มีผลงานในวงการเพลงมายาวนาน จากรุ่นพ่อแม่ถ่ายทอดฝีมือไปสู่รุ่นลูกแล้วละก็ สำหรับเราศิลปินที่จะนึกถึงเป็นอันดับแรกในใจเลยก็คือ Ravi Shankar และบุตรีของเขานาม Anoushka Shankar ทั้งคู่เป็นนักซีต้าชาวอินเดียที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลรอบโลกเลยทีเดียว ในส่วนของคนพ่อแล้วไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าใครก็ตามที่หลงใหลกับดนตรีสไตล์ภารตะก็จะต้องชื่นชอบเขาทั้งนั้น เราเองก็เช่นกัน เรียกว่าเป็นนักดนตรีชาวอินเดียคนแรกที่เรารู้จักก็ว่าได้ และความสามารถนั้นก็ได้ถ่ายทอดลงมายังบุตรสาวของเขาด้วยเช่นกัน

วันนี้เรานำงานใหม่ของ Anoushka มาให้ฟังกันค่ะ เป็นผลงานจากอัลบั้มล่าสุด Traces of You โดยแทร็คนี้มีชื่อว่า Lasya เป็นเพลงบรรเลงด้วยเครื่องดนตรี 3 ชิ้น โดยในครั้งนี้เธอร่วมงานกับนักดนตรีมากความสามารถเพื่อนร่วมชาติอย่าง Pirashanna Thevarajah ที่เล่น percussion ของอินเดียได้หลากหลายรูปแบบ และยังมี Manu Delago นักดนตรีชาวออสเตรียที่เล่นเครื่องดนตรีหน้าตาแปลกเหมือนเอากระทะสีเงินมาคว่ำลงแล้วตี เครื่องดนตรีนี้ชื่อว่า hang เขาเคยร่วมงานกับนักดนตรีชื่อดังมากมายจากทั่วโลก อย่างเช่น Björk การร่วมงานกันครั้งนี้ทำให้ Lasya ออกมาอย่างชนิดที่งดงามจับใจเราเป็นอันมากเลยละ ได้ฟังทีไรก็หลงใหลไปกับมนตราของดนตรีแห่งดินแดนภารตะ



หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่านอกจาก Anoushka แล้ว Ravi ยังมีบุตรสาวอีกคนที่หน้าตาเหมือนกับคนพี่ม๊ากมากอย่าง Norah Jones ด้วย แต่เป็นพี่น้องต่างมารดากัน และเราก็มีแทร็คที่สองศรีพี่น้องทำงานร่วมกันมาฝากด้วยค่ะ ชื่อเดียวกับอัลบั้มเลยก็คือ Traces of You นั่นเอง ทั้งเสียงหวานๆของน้องสาว และเสียงซีต้าของพี่สาวที่หวานไม่แพ้กัน ทำให้เพลงนี้ออกมาอย่างลงตัวสุดๆ เหมาะกับที่จะฟังในหน้าร้อนเป็นอย่างมาก และยังมีแทร็คอื่นในอัลบั้มอีกที่ featuring กัน ซึ่งส่วนตัวเรายังคงตื่นเต้นอยู่เสมอเวลาที่เห็นงานของสองพี่น้องที่ออกมาร่วมกัน ถึงแม้จะเคยมีแทร็คดีๆอย่าง Easy ออกมาในงานครั้งก่อนๆแล้วก็ตาม



ด้วย 2 แทร็คที่นำมาฝากกันวันนี้ถึงจะไม่ใช่จำนวนมากมายอะไร แต่มันก็พิสูจน์ได้อย่างเพียงพอแล้วว่าทั้งสองสาวที่กำเนิดจากคุณพ่อ Ravi เป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ

ป.ล.1 ปล่อย 2 สาวเขาเป็นลูกไม้กันไป ส่วนลูกหมูอย่างเราอยากกินอาหารอินเดียใจจะขาดแล้วเอ๊ยย ใจจะขาดแล้วเอย
ป.ล.2 ขึ้นต้นด้วยอินเดีย จบท้ายด้วยลูกทุ่งไทยแลนด์ซะอย่างงั้น


post signature


Tuesday 8 July 2014

เมื่อ Dillon Francis รวมพลังกับ Hayden James


มีผลงานจากการรวมพลังกันระหว่าง Dillon Francis และ Hayden James มาฝากกันเล็กน้อย เป็นการนำเอางานชิ้นฮิตอย่าง Without You กลับมารีมิกซ์ใหม่ในจังหวะที่แช่มช้าและหนืดหน่วงกว่าเดิม ส่วนตัวชอบนะ แต่ขอแอบติเล็กๆได้มั้ย เราอยากให้มิกซ์เส้นร้องให้มัน lay back กว่าที่เป็นอีกนิดนึง คิดว่าน่าจะเข้ากับ tempo ของเพลงมากกว่านี้ 



ยังไงลองฟังกันดูนะ ชอบหรือไม่ชอบยังไงก็ลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เหมือนเดิม และเราจะยังคงนำเอาความคืบหน้าจากงานใหม่ๆของทั้งสองคนมาฝากกันอีกแน่นอน


post signature

Friday 4 July 2014

Friend For Life


ต้องขอบอกกันก่อนเลยว่าเพลงนี้มีข้อมูลไม่มากจริงๆ เป็นงานที่เราเจอมาจากโฆษณามือถือตัวใหม่ของ Nokia โดยปกติทันทีที่โฆษณาของมือถือแบรนด์นี้ถูกอัพขึ้นยูทิวบ์ เราก็จะต้องรีบกดเพื่อเข้าไปฟังเพลงเสมอๆ และวันนี้เป็นเพลงจาก Ruupuu ที่มีชื่อว่า Friend For Life ที่เพิ่งออกมาได้ยังไม่ถึงสองอาทิตย์ดี ก็โดน Nokia จับมาประกอบโฆษณาซะแล้ว



เท่าที่ฟังก็ดูมีความเป็นอิเล็คทรอนิคส์อยู่ แต่ก็ยังต้องติดตามกันต่อไปว่าทางวงจะนิยามแนวทางการทำเพลงของตัวเองไว้ยังไงบ้าง ในหน้าโพรไฟล์ที่ Soundcloud เราแอบเห็นว่า follow ตา Dillon Francis เหมือนเราด้วยนะ คงได้รับอิทธิพลจากงานแบบเดียวกันมาไม่น้อยเลยละ ยังไงลองตามฟังแทร็คเก่าเพิ่มเติมอีกเพลงแล้วกัน แทร็คนี้มีชื่อว่า Asian Bat มีกลิ่นอายจีนๆสมชื่อแหละนะ แต่ว่าโคตรสั้นเลยให้ตาย นาทีกว่าๆเท่านั้นเอง



สรุปได้เลยว่าทีมทำโฆษณาของ Nokia มีรสนิยมการฟังเพลงที่ดีมาก เลือกเพลงมาประกอบแต่ละตัวนี่แบบโดนใจคนทั้งนั้น เรามักจะเห็นในคอมเมนท์ที่ถามถึงเพลงอยู่เสมอๆ คราวก่อนกับ Honey Treats จาก The Yours ก็ทำเอาติดอกติดใจไปทีนึงแล้ว ต่อไปนี้ก็คงตั้งตารอเลยว่าในโฆษณาของ Nokia ตัวหน้าเราจะได้ฟังงานเจ๋งๆจากศิลปินไหนอีกบ้าง



post signature

Thursday 3 July 2014

จระเข้บัว


วันนี้มีศิลปินใหม่จะมาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ เราบังเอิญไปเจอมาจากเพจของสำนักพิมพ์ชื่อดังแห่งนึงที่กำลังจัด book fair ของตัวเองอยู่ในขณะนี้ และเขาอัพเดทเกี่ยวกับศิลปินที่มีคิวไปขึ้นโชว์บทเวทีในงาน ก็เลยทำให้เราได้รู้จักกับจระเข้บัว หรือ Water Lilly Alligators ค่ะ ความจริงจระเข้บัวมีผลงานแรกออกมาครึ่งปีนิดๆได้แล้วละนะ ผิดที่เราเองที่เพิ่งจะมารู้จักกับงานดีๆแบบนี้ ซิงเกิลแรกมีชื่อว่า Little Boat หรือเรือ เป็นงานอิเล็คโทรป็อบใสๆ เนื้อหาน่ารัก เราชอบเสียงคนร้องมากเลยนะ เข้ากันกับเพลงมากๆ ฟังแล้วยิ้มไม่หุบเลยแหละ ลองไปฟังเลยแล้วกัน


เพียงแค่ฟังครั้งเดียวก็ทำให้เราชอบมากได้ขนาดนี้แล้ว ยังไงเราจะคอยติดตามความคืบหน้ากับซิงเกิลต่อไปอยู่เรื่อยๆ และสัญญาเลยว่าจะต้องเอามาฝากให้ได้อัพเดทกันอย่างแน่นอน


post signature