HomeAboutMusic DataMusic QuotesContact

Thursday 16 May 2013

Never Shout Never


Never Shout Never

สำหรับวัยรุ่นอย่างเราๆแล้ว (คนอ่านคงนึกในใจว่าน้ำหน้าอย่างเจ้าของบล็อกนี่น่าจะเลยวัยรุ่นมาหลายปีโข ซึ่งก็จริง) โอเค กับวัยรุ่นอย่างเราๆ (มันยังยืนยันที่จะเรียกตัวเองว่าวัยรุ่น) มันคงไม่แปลกที่เวลาฟังเพลงฟังดนตรีอาจจะมีเคลิ้มไปกับหน้าตาอันหล่อเหลาหรือน่ารักของนักร้องบ้าง กับวงที่จะมาแนะนำให้ได้รู้จักกันวันนี้ก็ด้วย พูดเลยว่าเราเริ่มจากการชอบในรูปลักษณ์ของนักร้องนำก่อนอื่น จากนั้นถึงไปหาข้อมูลและฟังเพลงของพวกเขา

เริ่มแรกเรารู้จัก Never Shout Never กลางปีที่แล้ว จากการดูวิดิโอตัวนึงในการโปรโมทแคมเปญอะไรสักอย่างของ Peta ช่วงนั้นพอดีว่าเรากำลังศึกษาเรื่องการเป็น vegan อยู่ เลยติดตาม Peta เป็นพิเศษ ก็เลยทำให้มีโอกาสไปป๊ะเข้ากับพ่อหนุ่มหน้ามน คนหน้าใส ลายสักเต็มตัว แถมระเบิดหูกับเจาะปาก อย่างคริสโทเฟอร์ ดรูว อิงเกิล และผองเพื่อนของเขาในนาม Never Shout Never สมาชิกทุกคนในวงเป็น vegan และทำเพลงอคูสติคป็อบร็อค นี่คือข้อมูลเบื้องต้นที่เราได้รู้จากวิดิโออันนั้น ทำให้เราต้องไปสืบเสาะหาเพลงมาฟังจนสาแก่ใจ

ขอเริ่มกันที่แทร็คโปรดของเราเลยแล้วกัน Time Travel อินโทรขึ้นมาออกแนวอิเล็คทรอนิคส์ยังไงชอบกล สารภาพตามตรงว่าตอนแรกไม่ได้เตรียมใจกับแนวเพลงว่าจะเป็นแบบไหน เข้ามาหาฟังเพราะความอยากรู้อยากเห็นและอิมเมจของวงเป็นตัวนำ แต่ฟังได้ครึ่งเพลง เฮ้ย เพลงแม่งมันนี่หว่า ชอบเนื้อตรงที่ร้องว่า hey kid you don't know shit แหกปากร้องตามแล้วสะใจดี


ต่อกันที่แทร็คที่สอง เราลองย้อนกลับไปฟังงานเก่าๆที่ให้กลิ่นอายอคูสติคป็อบร็อคกันบ้าง On The Brightside จัดว่าเป็นงานของวงในยุคแรกสุดเลยก็ว่าได้ เพราะออกมากับ Summer EP ในช่วงปี 2009 เนื้อหาใสมากๆ มองโลกในแง่ดีสุดๆ เรียกว่าเป็นเพลงโลกสวยฟีลเดียวกับเจสัน มราซเลยแหละ ขัดกับอิมเมจของวงที่ดูเผินๆเหมือนจะเป็นอีโมเอามากๆเลย ซึ่งความจริงก็ไม่ใช่อีโมหรอก แค่รอยสักและทรงผมมันพาไปมากกว่า


Can't Stand It เป็นอีกแทร็คที่เราชอบมากจากวงนี้ เนื้อหามันใสๆมากเลย ฟังได้เพลินๆ อารมณ์เพลงให้ฟีล puppy love สมัยม.ต้นมากๆ เป็นช่วงที่เราเริ่มฟังเพลงสากลอย่างจริงจังพอดี นึกภาพเห็นไอ้หนุ่มกระเตาะเรียนม.ต้นหัดเล่นเพลงนี้ด้วยกีต้าร์เพื่อจีบสาว



3ec4efbccc51c455cdd8fb7da8aa9166

ย้อนกลับมาที่ปัจจุบันกันบ้าง ซิงเกิลล่าสุดที่ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้วที่ชื่อ Magic เป็นแทร็คที่ทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆแล้วดนตรีของวงก็ไม่ได้เป็นอะไรหวือหวาแบบที่เราเข้าใจไปเองเลย มันก็เป็นเพลงป็อบร็อคธรรมดาๆนี่เองละ บวกกับกลิ่นอายอคูสติคและอะไรบางอย่าง (ที่เราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร) ที่ทำให้อะไรๆมันดูหวือหวาขึ้นมาได้เองผิดจากภาพความเป็นจริง ซึ่งเราถือว่านี่คือข้อดีนะ


แทร็คท้ายสุดที่จะขอพูดถึง เป็นแทร็คที่ใครหลายๆคนที่ติดตามวงนี้ล้วนชอบกันเป็นพิเศษ แต่สำหรับเรากลับเฉยๆ ก็คือ What Is Love? ที่มีกลิ่นอายดนตรีร็อคเก่าๆ เหมือนจะเป็นโฟล์คร็อคหรือเปล่าเราไม่แน่ใจ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มดนตรีแนวนี้เท่าไหร่ รู้สึกเหมือนมันมีสำเนียงเฉพาะตัวที่ทำให้เรารู้สึกโหยไห้กับอะไรก็ไม่รู้อยู่ลึกๆ (ถ้าอยากเข้าใจว่าฟีลประมาณไหน ให้ลองไปหาคลิปคดีฆาตกรรมเจ้านายโดยสาวใช้ฝรั่งเศสตระกูล Papin ดู เพลงประกอบคลิปส่วนใหญ่ให้ฟีลแบบนั้นเลย) แต่ก็ลองแนะนำดู คิดว่าถ้าคนส่วนมากเขาชอบกันคนอ่านก็น่าจะชอบได้ไม่ยาก คงมีแต่เราที่เพี้ยนไปเองแหละ


Never Shout Never เป็นตัวอย่างนึงที่บอกกับเราว่าอย่าตัดสินอะไรจากเพียงภายนอก ว่ากันตรงๆจากตอนแรกที่ชอบในรูปลักษณ์ที่คล้ายๆจะอีโมนี้ เราไม่คิดหรอกว่าเราจะชอบงานเพลงของพวกเขานะ แต่หลังจากที่ได้ลองฟังจริงๆแล้วเราพูดได้เต็มปากเลยว่าชอบ และจะติดตามกันต่อไปอย่างแน่นอน

ขอบคุณภาพจาก

nevershoutnever.com

portsmouthguildhall.org.uk


No comments:

เราชอบที่จะอ่านคอมเมนท์ของคุณ ฟังแล้วคิดยังไงบอกเรามาได้ ถ้ามีเพลงแปลกใหม่น่าสนใจมาแนะนำ เรายินดีเสมอ